เมนู

3. ปัลลังกวิมาน


ว่าด้วยปัลลังกวิมาน


[31] พระมหาโมคคัลลานเถระ ถามนางเทพธิดานั้นด้วยคาถา
ความว่า
ดูก่อนนางเทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก ท่านอยู่
บนที่นอนใหญ่เป็นบัลลังก์อันประเสริฐ อันบุญกรรม
ตกแต่งให้วิจิตรด้วยแก้วมณีและทองคำ โรยดอกไม้
ไว้เกลื่อนกล่น อนึ่ง รอบ ๆ ตัวท่าน เหล่านางเทพ-
อัปสรมีร่างสมทรง แผลงฤทธิ์ได้ต่าง ๆ ฟ้อนรำ
ขับร้อง ให้ท่านร่าเริงบันเทิงใจอยู่เป็นนิจ ท่านเป็น
นางเทพธิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์อานุภาพมาก ครั้งเมื่อ
ท่านยังเป็นมนุษย์อยู่ได้ทำบุญอะไรไว้ ท่านเป็นผู้มี
อานุภาพอันรุ่งเรือง และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่ว
ทุกทิศอย่างนี้ เพราะบุญกรรมอะไร.

นางเทพธิดานั้นตอบว่า
ดีฉันเมื่อเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในมนุษยโลก เป็น
บุตรสะใภ้ในตระกูลอันมั่งคั่งตระกูลหนึ่ง ดีฉันเป็น
ผู้ไม่โกรธ เป็นผู้ประพฤติอยู่ใต้บังคับบัญชาของสามี
ไม่ประมาทในวันอุโบสถ เมื่อดีฉันยังเป็นสาวอยู่
เป็นผู้ภักดีด้วยการไม่ประพฤตินอกใจสามีหนุ่ม ดีฉัน

เป็นที่โปรดปรานของสามีเป็นอย่างยิ่ง ก็เพราะดีฉัน
มีน้ำใจผ่องใส ดีฉันได้ประพฤติตนให้เป็นที่ชื่นชอบ
ใจของสามีทั้งกลางวันและกลางคืน ชาติก่อนดีฉัน
เป็นผู้มีศีล เป็นผู้บำเพ็ญในสิกขาบททั้งหลาย อย่าง
ครบถ้วน คือ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์
มีการงานทางกายบริสุทธิ์ ประพฤติพรมจรรย์อย่าง
สะอาดไม่กล่าวคำเท็จ และเว้นขาดจากดื่มน้ำเมา
ดีฉันมีใจเลื่อมใส ประพฤติตามธรรม ปลาบปลื้มใจ
เข้ารักษาอุโบสถประกอบด้วยองค์ 8 ประการ ใน
วัน 14 ค่ำ 15 ค่ำ และวัน 8 ค่ำ แห่งปักษ์ และ
ตลอดปาฏิหาริยปักษ์ ครั้นดีฉันสมาทานกุศลธรรม
อันประกอบด้วยองค์ 8 ประการอย่างประเสริฐเป็น
อริยะ มีความสุขเป็นกำไร เช่นนี้แล้ว ชาติก่อน
ดีฉันได้เป็นสาวิกาของพระสุคตเจ้า ได้เป็นผู้อยู่ใต้
บังคับบัญชาของสามีเป็นอันดี ครั้นดีฉันทำกุศลกรรม
เช่นนี้ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ในมนุษยโลก เป็นผู้มี
ส่วนแห่งภพอันวิเศษ พอสิ้นชีพลงแล้ว ดีฉันจึงถึง
ความเป็นนางเทพธดาผู้มีฤทธิ์ ในอภิสัมปรายภพ
มาสู่สวรรค์ ห้อมล้อมด้วยหมู่นางเทพอัปสรในวิมาน
มีปราสาทอย่างประเสริฐ น่ารื่นรมย์ คณะเทพเจ้า
และเหล่านางเทพธิดาทั้งหลาย ซึ่งมีรัศมีซ่านออก

จากกายตน พากันมาชื่นชมยินดีกับดีฉันผู้มีอายุยืน
มาสู่เทพวิมาน.

จบปัลลังกวิมาน

อรรถกถาปัลลังกวิมาน


ปัลลังกวิมาน มีคาถาว่า ปลฺลงฺกเสฏฺเฐ มณิโสวณฺณจิตฺเต
ดังนี้ เป็นต้น. ปัลลังกวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร อารามของ
อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้กรุงสาวัตถี. ก็สมัยนั้น ธิดาของอุบาสิกาคนหนึ่ง
ในกรุงสาวัตถี มารดาบิดายกให้กุลบุตรคนหนึ่งในกรุงสาวัตถีนั้นเอง
เสมอกันทางตระกูลและประเทศเป็นต้น. ธิดานั้นเป็นหญิงไม่โกรธ ถึง
พร้อมด้วยศีลและมารยาท นับถือสามีดุจเทวดา สมาทานศีล 5 และ
ในวันอุโบสถรักษาศีลอุโบสถโดยเคร่งครัด. ต่อมานางถึงแก่กรรมเกิดใน
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์. ท่านพระมหาโมคคัลลานเถระไปเหมือนอย่างที่กล่าว
มาแล้วในหนหลัง ถามเทพธิดานั้นว่า
ดูก่อนเทวีผู้มีอานุภาพมาก ท่านแผลงฤทธิ์ได้
ต่าง ๆ อยู่บนที่นอนอันโอฬาร เป็นบัลลังก์ประเสริฐ
วิจิตรด้วยแก้วมณีและทองคำ ลาดด้วยดอกไม้.
นางอัปสรเหล่านี้ ฟ้อนรำขับร้อง ให้ความบันเทิง
แก่ท่านโดยรอบ. เทวีผู้มีอานุภาพมาก ท่านเป็นผู้